ทำไมต้องเรียน เตรียมทหาร

หากได้ยินคำว่า “วัยรุ่น” เมื่อหลายปีก่อน ผู้ใหญ่หลายคนคงมีความรู้สึกด้านลบกับคำๆ นี้ พาให้นึกถึงเหตุจลาจล ยาเสพติด และปัญหาหลากหลาย แต่ปัจจุบันนี้หลายองค์กรให้ความสำคัญกับกลุ่มเยาวชนที่เรียกว่า “วัยรุ่น” ส่งผลต่อความรู้สึกที่เปลี่ยนไป พาให้นึกถึงการรณรงค์ให้ห่างไกลยาเสพติด ให้รักและรักษาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนกิจกรรมที่ได้แสดงออกในทางที่สร้างสรรค์และอื่นๆ

โดยทั่วๆ ไปแล้ว “วัยรุ่น” คือเด็กอายุตั้งแต่ 12 - 25 ปี ที่ต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยมต้น- ปลาย มหาวิทยาลัย และเข้าสู่สังคมการทำงาน จะมี “วัยรุ่น” สักกี่คนที่วาดฝันให้ตนเองแล้วมีความแน่วแน่ที่จะตามฝันนั้นอย่างแท้จริง มี “วัยรุ่น” สักกี่คนที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดทั้งต่อตนเองและครอบครอบครัวและทำสิ่งนั้นได้จริง ๆ คำตอบของ “วัยรุ่น” กลุ่มนี้คือ นักเรียน เตรียมทหาร

ทำไมต้องเรียน เตรียมทหาร สำหรับกลุ่มคนที่มีโอกาสในการรับรู้ข้อมูลด้านเตรียมทหารค่อนข้างน้อย คงมีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ แต่สำหรับกลุ่ม “วัยรุ่น” ที่มีโอกาสได้เรียนรู้ข้อมูลดังกล่าวคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า คำตอบของอนาคตที่มั่นคงคือ เตรียมทหาร อย่างแน่นอน

โรงเรียน เตรียมทหาร - สามัคคี มีความรู้ คู่คุณธรรม

โรงเรียน เตรียมทหาร สถานที่สำหรับคัดสรรสุภาพบุรุษนายร้อยสอยดาวทั้งสี่เหล่าทัพซึ่งได้แก่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ สถานที่ที่เปรียบเสมือนบันไดก้าวไปสู่การคว้าดาวมาประดับบ่า สวมใส่เครื่องแบบอันทรงเกียรติ รับราชการทหารหรือตำรวจ สถานที่ที่สร้างบุคลากรอันน่ายกย่องที่จะคอยรักษาความสงบให้ประเทศไทยทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และพิทักษ์สันติราษฎร์ของเมืองไทยที่ซึ่งเราทุกคนเรียกว่า “บ้าน” โรงเรียน เตรียมทหาร คือสถานที่ที่เพิ่มเกียรติและศักดิ์ศรีให้แก่ตระกูลของนักเรียน เตรียมทหาร เหล่านั้น สถานที่ที่จะทำให้คำว่าเกิดมาเป็น “ผู้ชาย” เป็นชายอย่างเต็มภาคภูมิ สถานที่ดังกล่าวคือโรงเรียน เตรียมทหาร ที่เปิดสอบรับนักเรียนชายที่มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น อายุไม่เกิน 17 ปี

กระทรวงศึกษาของไทยกำหนดการศึกษาภาคบังคับในระดับมัธยมศึกษา เด็กหนุ่มจำนวนไม่น้อยที่เรียนไปเรื่อยๆตามธรรมเนียมปฏิบัติของไทย เรียนไปตามข้อบังคับ เรียนไปตามสิ่งแวดล้อมพาไป เรียนไปตามการบอกเล่าของใครต่อใคร เรียนไปตามความต้องการของคนกลุ่มหนึ่งที่อยากจะให้เด็กเหล่านั้นเป็น โตขึ้นอยากให้ลูกชายเรียนด้านวิศวกรรม โตขึ้นอยากให้ลูกเป็นหมอ โตขึ้นอยากให้ลูกเป็นนักธุรกิจ เด็กหนุ่มหลายคนที่ยังไม่มีฝันที่ชัดเจนก็มักจะเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงจุดๆหนึ่งที่เรียกได้ว่า พร้อม ที่จะคิดและทำในสิ่งที่อยากเป็น ถึงตอนนั้นเด็กกลุ่มนี้อาจเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว และนี่คือสาเหตุส่วนหนึ่งของคำกล่าวที่ว่า เรียนอย่างหนึ่งแต่ทำงานอีกอย่างหนึ่ง เรียนจบแล้วเพิ่งค้นพบตัวเองว่าอยากเป็นอีกแบบหนึ่งที่ไม่ใช่แบบที่เรียนมา เรียนจบแล้วถึงจะมีคำตอบให้ตัวเองว่า ที่เรียนมานั้นไม่เหมาะกับตน ไม่ขอทำงานตามสายที่เรียนมา สาเหตุอีกส่วนหนึ่งคือ จบวิชาเอกที่เรียนมาแต่หางานให้ตรงกับที่เรียนมายากเหลือเกิน จึงต้องทำงานในสายที่ไม่ตรงกับที่เรียนจบมา ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดกับเด็กที่มีความฝันที่แน่วแน่และมั่นคง และจะไม่เกิดกับนักเรียน เตรียมทหาร โรงเรียน กวดวิชาเตรียมทหาร อย่างแน่นอน

โรงเรียน กวดวิชาเตรียมทหาร มีไว้สำหรับคนที่มีฝันที่แน่วแน่ มั่นคง รักและตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่า นายร้อยหรือนักเรียน เตรียมทหาร คือสิ่งที่เขาต้องการจะเป็น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวนหลายหมื่นคนที่มีฝันดังกล่าว และพร้อมที่จะทำตามฝันนั้นอย่างแท้จริงจึงต้องทดสอบเพื่อแข่งขันเข้าไปชิงที่นั่งของโรงเรียน เตรียมทหาร ซึ่งแต่ละเหล่าทัพของโรงเรียน เตรียมทหาร มีที่ว่างให้หนุ่มๆเหล่าละประมาณ 100 คน เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแค่มีฝันอย่างเดียวโรงเรียน เตรียมทหาร คงจะห่างไกลเกินไป แต่ถ้ามีทั้งฝันและตั้งใจจริง อดทน ฝ่าฟันและสู้สุดความสามารถ อาจมีที่นั่งในโรงเรียน เตรียมทหาร รออยู่ และที่สำคัญปัญหาเรียนจบไม่มีงานทำ เรียนจบหางานยาก เรียนจบไม่มีงานรองรับที่ตรงกับสายที่เรียนมา จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับนักเรียนโรงเรียน เตรียมทหาร อย่างแน่นอน โรงเรียน เตรียมทหาร คือคำตอบสุดท้ายของสุภาพบุรุษชายชาตรี